ประวัติการค้นพบ “ฮอร์โมน”
หากพูดถึง "ฮอร์โมน" เวลานี้เหล่าบรรดาวัยรุ่นทั้งหลายคงนึกถึงละครซีรีย์ชื่อดังอย่าง “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ละคร
ซีรีย์ฮอตเกาะกระแสสังคม ผลิตโดยจีทีเอช และนาดาวบางกอก
ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์จานดาวเทียมจีเอ็มเอ็มวัน
ละครซีรีย์เรื่องนี้มีการนำเสนอเรื่องราวชีวิตของวัยรุ่น
โดยตีแผ่ด้านมืดของชีวิตวัยรุ่นในสังคมยุคปัจจุบันอย่างชัดเจน
โดยมีการนำเอาชื่อของฮอร์โมนต่าง ๆ
มาใช้เปรียบเทียบและสะท้อนบุคลิกของตัวละครนั้น ๆ
แต่ในความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์แล้ว
ฮอร์โมนไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวเราแค่ในเฉพาะวัยว้าวุ่น
อย่างวัยรุ่นเท่านั้น
แต่ยังมีความสำคัญเกี่ยวข้องต่อการเจริญเติบโตและใช้ชีวิตในทุกเพศทุกวัย
ตั้งแต่เกิดจนกระทั่งแก่เฒ่าอีกด้วย
แต่หากจะกล่าวถึงประวัติการค้นพบฮอร์โมนนั้นคงเริ่มจากการทดลองของ ศาสตราจารย์ อาร์โนลด์ เอ. เบอร์โทลด์ (Professor Arnold A. Berthold)
นักสรีรวิทยาชาวเยอรมัน โดยในปี พ.ศ. 2391
อาร์โนลได้ทำการเปลี่ยนโครงสร้างร่างกายของของไก่เพศผู้ โดยแบ่งออก 3
กลุ่ม กลุ่มแรก ให้ลูกไก่เจริญเติบโตตามปกติ กลุ่มที่สอง
ทำการตัดอัณฑะของลูกไก่ออก และกลุ่มที่สาม ทำการตัดอัณฑะของลูกไก่ออก
แล้วนำอัณฑะของลูกไก่อีกตัวอื่นมาใส่ที่ใต้ตำแหน่งอัณฑะเดิมเล็กน้อย ผลการทด
ลองของอาร์โนลปรากฏว่า
ลูกไก่กลุ่มแรกและกลุ่มที่สามซึ่งได้รับการต่ออัณฑะจากไก่ตัวอื่น
สามารถเจริญเติบโตไปเป็นไก่ตัวผู้ตามปกติ
ในขณะที่ลูกไก่ในกลุ่มที่สองที่โดนตัดอัณฑะออก
กลับเจริญเติบโตมามีลักษณะคล้ายกับไก่เพศเมีย
ดังนั้นลักษณะเพศผู้ของลูกไก่จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับโครโมโซมเพศผู้แต่เพียง
อย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังเกี่ยวข้องกับกลไลการทำงานของสิ่งอื่นด้วย
ต่อมาในปี พ.ศ.2446 วิลเลียม เบย์ลิสส์ (William Bayliss) และ เออเนสต์ สตาร์ลิ่ง (Ernest Starling) นัก
สรีรวิทยาชาวอังกฤษ ได้เกิดความสงสัยว่า
น้ำย่อยถูกผลิตออกมาเพื่อช่วยในการย่อยอาหาร
เมื่ออาหารเคลื่อนตัวจากท้องสู่ลำไส้แล้วสิ่งใดที่เป็นตัวกระตุ้นให้ตับอ่อน
ปล่อยสารพิเศษออกมาช่วยในการย่อยอาหาร?
เบย์ลิสส์และสตาร์ลิ่งจึงได้ทดลองนำเลือดของสุนัขซึ่งกินอาหารเสร็จเรียบ
ร้อยแล้ว มาฉีดใส่ในสุนัขตัวที่สองซึ่งยังไม่ได้กินอาหารเลย
และผลก็ปรากฏว่าสุนัขตัวที่สองเกิดการหลั่งน้ำย่อยออกจากตับอ่อน
สร้างความประหลาดใจให้แก่พวกเขาทั้งสองคนเป็นอย่างมากทั้งเบย์ลิสส์
และสตาร์ลิ่ง
ต่างเชื่อว่าที่ตับอ่อนสามารถหลั่งน้ำย่อยได้นั้นเป็นเพราะมีการส่งสัญญาณไป
ทางกระแสประสาท
พวกเขาจึงเริ่มทำการทดลองโดยมัดปลายทั้งสองข้างของลำไส้เล็กส่วนกลาง
หรือที่เรียกกันว่า Jejunum และผ่าตัดเอาเส้นประสาททั้งหมดออก
เหลือไว้เพียงแค่เส้นเลือดแดงและดำเท่านั้น
ซึ่งจุดประสงค์ก็เพื่อให้ตับอ่อนหยุดการหลั่งน้ำย่อย
แต่ผลการทดลองนี้กลับทำให้เบย์ลิสส์และสตาร์ลิ่งต่างตกใจ
เมื่อพบว่าตับอ่อนไม่ได้เกิดการหยุดหลั่งน้ำย่อย
แต่ยังสามารถหลั่งน้ำย่อยออกมาได้แถมยังหลั่งออกในอัตราเท่าเดิมอีกด้วย
การ ทดลองของทั้งสองจึงไมได้จบอยู่เพียงแค่นั้น เขาทั้งสองยังคงเริ่มทำการทดลองเพื่อค้นหาคำตอบต่อไป โดยการขูดเมือกบริเวณ Jejunum และฉีดเข้าเส้นเลือดสุนัข ผลปรากฏว่า ตับอ่อนสามารถหลั่งน้ำย่อยออกมาได้อีก ดังนั้นเบย์ลิสส์และสตาลิ่งจึงต่างคิดว่า ต้องมีสารบางอย่างอยู่ที่ผนังเมือกของลำไส้เล็ก ซึ่งพวกเขาเรียกมันว่า “ซีคริติน” (secretin)
ต่อมาจึงมีการบัญญัติคำใหม่เพื่อใช้เรียกกลุ่มของสารเคมีนี้ว่า “ฮอร์โมน” ซึ่งมีรากศัพท์มาจากคำว่า “horman” แปลว่ากระตุ้น หรือทำให้เคลื่อนไหวนั่นเอง
หลังจากนั้นต่อมา ฮอร์โมนอีกหลายชนิดซึ่งผลิตจากส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็ถูกค้นพบขึ้น ทั้งฮอร์โมนผลิตจากต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไตต่อมไทรอยด์ ต่อมพาราไทรอยด์ ต่อมไพเนียล ต่อมไทมัส อวัยวะสืบพันธุ์ หรือกลุ่มเซลล์ไอส์เลตออฟแลเกอร์ฮานส์ ทั้งยังได้มีการศึกษาถึงโครงสร้างของเหล่าฮอร์โมนชนิดนั้น ๆ อีกด้วย
และนี่เองจึงเป็นที่มาของการค้นพบ “ฮอร์โมน” สารเคมีที่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายค่ะ…
Lucky Day Casino Review and Bonus Codes - JTM Hub
ตอบลบLucky 하남 출장마사지 Day Casino is an online 세종특별자치 출장샵 casino that offers the best promotions, 삼척 출장마사지 Deposit Bonus: 100% up to €100 + 100 포항 출장샵 Free Spins. Rating: 4 · Review by JRM 경주 출장샵